ลดน้ำหนักจากการวิ่ง เพียง 4 เดือน ฟังจากประสบการณ์จริง 

การลดน้ำหนักส่วนเกินด้วยการวิ่งนั้น แล้วเห็นผลภายใน 4 เดือน มีคนเคยทำมาได้แล้ว ถ้าสังเกตในทุกๆต้นปี ใครที่ชอบวิ่ง สนามวิ่งหรือสวนสาธารณะทุกที่ ผู้คนจะหนาแน่นเต็มไปด้วยนักวิ่งมากมาย จากการสอบถามเพื่อนๆ หรือนักวิ่งอัธยาศัยดี อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน มักจะบอกว่า การวิ่งเป็นหนึ่งใน New Year Resolution ที่ตั้งใจไว้ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่เลือกมาวิ่งก็เพราะว่า ต้องการลดน้ำหนักนั่นเอง

 

ครั้งนี้ น้ำมันมวยได้มีโอกาสได้สัมภาษณ์ นักวิ่งที่มีประสบการณ์การวิ่ง แล้วลดน้ำหนักได้เห็นผลจริง มาแชร์ประสบการณ์วิ่งให้เป็นแรงบันดาลใจของนักวิ่งทุกคนเพื่อพิชิตเป้าหมายให้ได้

 

“การวิ่งเพื่อลดน้ำหนักนั้นมีหลายแบบ แต่ละแบบไม่สามารถใช้กับทุกคน เราต้องศึกษาด้วยว่าตัวเราเหมาะกับวิธีใด และต้องรู้ว่าลิมิตตัวเองอยู่แค่ไหนอย่าฝืน รวมทั้งควบคุมอาหารควบคู่กันด้วยครับ”

 

น้องกิ๊ก หนุ่มนักวิ่งหน้าใส ที่ได้แรงบันดาลใจให้ออกมาวิ่งจาก ความสดใสของวันใหม่ ได้ให้โอกาสมาบอกเล่าเรื่องราว แรงบันดาลใจและเทคนิคในการวิ่งเพื่อลดน้ำหนักกัน

 

เริ่มวิ่งแบบตั้งใจลดน้ำหนักตั้งแต่เมื่อไหร่

ผมเริ่มวิ่งครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อน เมื่อก่อนเป็นคนที่นอนดึกมาก และตื่นสาย จุดเปลี่ยนเกิดจากตอนที่ผมเริ่มบวชแล้วต้องตื่นเช้า ในตอนนั้นผมรู้สึกว่า การตื่นเช้าทำให้เราได้อะไรดีๆมากมายอากาศที่สดชื่น แสงแดดอ่อน ที่ให้ความอบอุ่น รวมทั้งบรรยากาศที่สงบแต่กลับสดใส ผมเริ่มหลงใหลการตื่นเช้า หลังจากสึกจากพระ ผมก็ตื่นเช้าตลอด ผมจึงต้องเริ่มหัดวิ่ง เพื่อที่จะได้ออกไปสัมผัสบรรยากาศยามเช้า

 

 

ช่วงแรกน้ำหนักลดไปเท่าไหร่

ตอนแรกวิ่งถือว่าไม่เยอะมากครับ พอดีตอนบวชน้ำหนักลงไปพอสมควร แต่ก็ถือว่าเยอะกว่าตอนนี้ ตอนนั้น พีคสุดอยู่ที่ 78 กิโลกรัม ตัวเองเป็นคนอ้วนลงพุงด้วย เพราะใช้ชีวิตเต็มที่ ทั้งกินเที่ยว ปล่อยตัวจนลงพุงเหมือนกัน พอวิ่งไปได้ระยะหนึ่งลดลงไปได้ 6-7 กิโลกรัม

 

คนมีน้ำหนักเกินมาลดน้ำหนักครั้งแรก มักจะเจอจุดที่ท้าทายเสมอ มีอะไรที่เราเจอแล้วรู้สึกว่าทำให้เราไม่อยากไปต่อบ้าง

ปัญหาของผมอาจจะไม่เหมือนใคร ช่วงแรกคือ ขาดเพื่อน (ฮาๆๆๆ) ช่วงแรกๆ จะไม่ค่อยมีใครวิ่งด้วย แต่ถ้าพูดถึงปัญหาที่เจอจริง คือ วิ่งผิดวิธี เนื่องจากผมมุ่งมั่นมาก แรกๆผมวิ่งตลอดเลย วิ่งอย่างบ้าคลั่ง สิ่งที่เกิดกับผมคือ น้ำหนักมันลงก็จริง แล้วมันหายไปหมดเลย ไม่ใช่แค่พุงนะ แต่กล้ามเนื้อมันก็หายไปด้วย มันหายจนเพื่อนทักว่า แห้งไปเลย ผมเสียบุคลิกไปพอสมควร

 

แล้วตอนนั้นเราแก้อย่างไร เพื่อให้วิ่งลดน้ำหนักต่อไปได้
หลังจากนั้นผมก็เริ่มศึกษามากขึ้น ทำให้ผมทราบว่า การวิ่งนั้นต้องดูระดับการเต้นของหัวใจด้วย ให้อยู่ที่ zone 2 หรือ 3 ให้ heart rate เต้นอยู่ในช่วงนี้ เพื่อให้การใช้พลังงานอย่างคงที่ จะช่วยในการลดไขมันหน้าท้องโดยที่เราไม่สูญเสียกล้ามเนื้อไปด้วย แล้วลดอาหารพวกแป้งลง แต่ยังทานครบ 3 มื้อปกติอยู่เหมือนเดิมครับ

 

อยากฝากให้กำลังใจเพื่อนๆ ที่กำลังวิ่งลดน้ำหนักไหม

การวิ่งเพื่อลดน้ำหนักนั้นมีหลายแบบ แต่ละแบบไม่สามารถใช้กับทุกคน เราต้องศึกษาด้วยว่าตัวเราเหมาะกับวิธีใด การวิ่งไม่ใช่สักแต่วิ่งเร็ว ควรให้จังหวะการเต้นของหัวใจคงที่ ถ้าเราไม่ควบคุมอาจจะเสี่ยงถึงหัวใจวายด้วย และต้องรู้ว่าลิมิตตัวเองอยู่แค่ไหนอย่าฝืน รวมทั้งควบคุมอาหารควบคู่กันด้วยครับ